การดูแลแบบ palliative care เป็นสาขาของการรักษาที่เน้นการบรรเทาอาการและความเครียดจากการเจ็บป่วยที่รุนแรง ไม่ใช่แค่สำหรับคนที่ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต แต่ยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยหนักหรือป่วยเรื้อรังด้วย แต่ถึงแม้จะมีประโยชน์ที่หนักแน่น แต่ดูเหมือนว่ายังคงมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการดูแลแบบ palliative care ต่อไปนี้คือความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับการดูแลประเภทนี้
1. การดูแลแบบpalliative care ใช้รักษาเฉพาะผู้ที่กำลังจะเสียชีวิตเท่านั้น
การดูแลแบบ Palliative care อาจเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่เจ็บป่วยร้ายแรงหรือเรื้อรัง ไม่ใช่แค่ผู้ที่ใกล้จะเสียชีวิต มันสามารถช่วยบรรเทาอาการและความเครียดจากการเจ็บป่วย และช่วยให้คุณจัดการการดูแลสุขภาพโดยรวมได้ดีขึ้น
2. การดูแลแบบ Palliative careและการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายคือการดูแลประเภทเดียวกัน
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (hospice care)เป็นการดูแลแบบประคับประคองประเภทหนึ่งที่เน้นการให้ความสะดวกสบายและการสนับสนุนแก่ผู้ที่อยู่ในระยะสุดท้ายของการเจ็บป่วย ในทางกลับกัน การดูแลแบบpalliative careสามารถเข้ารักษาได้ทุกระยะของการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงหรือเรื้อรัง
3. การดูแลแบบpalliative careหมายถึงการยอมแพ้
การดูแลแบบประคับประคองไม่ใได้บ่งบอกว่าเป็นการยอมแพ้ในชีวิต แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับทีมแพทย์ของคุณเพื่อจัดการอาการของโรคและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณต่างหาก
4. การดูแลแบบpalliative care เป็นการดูแลสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเท่านั้น
แม้ว่าการดูแลแบบประคับประคองจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็ง แต่ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนกลุ่มนี้ ความจริงแล้วมันสามารถให้การดูแลแบบประคับประคองแก่ทุกคนที่เจ็บ
5. การดูแลแบบ Palliative careต้องใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น
การดูแลแบบ Palliative careสามารถให้บริการได้ในหลายสถานที่ รวมถึงโรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล หรือแม้แต่ในบ้านของคุณเอง
6. คุณต้องได้รับการส่งต่อไปยังทีมดูแลแบบ Palliative careโดยแพทย์ของคุณเท่านั้น
คุณไม่จำเป็นต้องมีผู้อ้างอิงเพื่อดูทีมดูแลแบบประคับประคอง คุณสามารถถามแพทย์ของคุณว่าการดูแลแบบประคับประคองเหมาะกับคุณหรือไม่ หรือคุณสามารถติดต่อโปรแกรมการดูแลแบบประคับประคองได้โดยตรงด้วยตัวเอง
7. การดูแลแบบ Palliative careเป็นแนวคิดใหม่
การดูแลแบบ Palliative care มีมานานหลายศตวรรษ การดูแลแบบ Palliative careสมัยใหม่เริ่มต้นขึ้นในปลายทศวรรษที่ 1800 และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แม้ว่าการดูแลแบบ Palliative careจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการดูแลประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการดูแลประเภทนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่กำลังจะเสียชีวิตเท่านั้น และไม่เหมือนกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ทุกคนสามารถได้รับการดูแลแบบ Palliative care หากเป็นผู้ที่เจ็บป่วยร้ายแรงหรือเรื้อรังทั่วไป เพราะมันเป็นการดูแลที่มุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพชีวิต ไม่ใช่แค่การจัดการความเจ็บปวดอย่างเดียว